วันอังคารที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2553

งานสารทไทยกล้วยไข่ เมืองกำแพง

ณ บริเวณลานโพธิ์ หน้าที่ว่าการอำเภอเมือง จ.กำแพงเพชร ขอเชิญทุกท่านร่วมสนุกกับงานสารทไทยกล้วยไข่ เมืองกำแพง จ.กำแพงเพชร ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลากว่า 39 ปีมาแล้ว ตั้งแต่ พ.ศ.2524 เป็นการส่งเสริมการขายกล้วยไข่ ของดี ของเด่น ประจำจังหวัดกำแพงเพชร ในแต่ละปีงานสารทไทยจะตรงกับ วันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ตามจันทรคติ ซึ่งในฤดูกาลนี้กล้วยไข่จะมีผลผลิตออกมามาก เมื่อมีงานบุญต่างๆที่มีการทำบุญตักรบาตรก็มักจะใช้กล้วยไข่เป็นผลไม้และมี กระยาสารททานคู่กันเป็นของหวานเสมอมาจนถึงปัจจุบัน งานสารทไทยกล้วยไข่ เมืองกำแพง จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-17 ตุลาคม 2553 บริเวณลานโพธิ์ หน้าที่ว่าการอำเภอเมืองจังหวัดกำแพงเพชร มีกิจกรรมให้ทุกท่านได้ร่วมสนุกมากมาย อาทิ การประกวดกล้วยไข่ดิบ-สุก ชมขบวนแห่รถ 13 ขบวนที่ประดับตกแต่งด้วยกล้วยไข่อย่างประณีต สวยงาม ชมการแสดงระบำกล้วยไข่จากมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชรซึ่งร่วมกับชมรมนาฏ ศิลป์ศูนย์จริยะศึกษา และร่วมพิธีกวนกระยาสารทกระทะหลวง ในงานนี้ทุกท่านจะได้ชิมกระยาสารทแสนอร่อยจากยอดฝีมือที่ชนะเลิศการประกวด จากปีก่อนๆ เชิญชวนทุกท่านสู่มหกรรม ชิม ชม ช็อป กระยาสารท และมหรสพต่างๆอีกมากมาย

นอกจากนี้ยังมี กิจกรรมผ้าป่าแถว กิจกรรมทางพุทธศาสนาที่เป็นประเพณีดั้งเดิมตั้งแต่พุทธกาล โดยสมัยก่อนกว่าที่พระภิกษุจะมีจีวรใส่นั้น พระภิกษุต้องเก็บเศษผ้าที่ถูกตัดทิ้งไว้หรือแม้แต่นำผ้าที่ห่อศพของมนุษย์มา ตัดเย็บเป็นจีวรและนำไปย้อมกับเปลือกไม้ย้อมฝาด กลายมาเป็น ผ้ากาสาวพัตร์ ในสมัยต่อมาพระภิกษุไม่สามารถหาเศษผ้ามาทำจีวรได้เพียงพอกับจำนวนพระภิกษุ ชาวบ้านจึงนำผ้าไปตัดเย็บแล้วไปทิ้งไว้ตามป่า พาดไว้ตามกิ่งไม้เรียกกันว่า ผ้าป่า กลายเป็นชื่อสั้นๆที่ใช้เรียกสืบต่อกันมา จังหวัดกำแพงเพชรมีการจัดประเพณีการทอดผ้าป่าแต่เนื่องด้วยมีประชาชนที่ เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาจำนวนมากการทอดผ้าตามเดิมจึงเกิดปัญหาในการ จัดการขึ้น หลังจากนั้นการทอดผ้าจึงถูกจัดระบบใหม่ให้เรียงเป็นแถวระยะตรงตามจำนวนของ ผู้ที่มาทอดผ้าป่าให้พระภิกษุและประชาชนได้พบกันและหาผ้าได้ง่ายขึ้น จึงกลายเป็นประเพณีสืบต่อกันมา เรียกว่า “ผ้าป่าแถว”ในที่สุด การทอดผ้านั้นมีอยู่ทั่วไปทุกจังหวัดทั่วทุกมุมโลกแต่ด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน ของชาวจังหวัดกำแพงเพชรทำให้ประเพณี ผ้าป่าแถว กลายเป็นหนึ่งเดียวในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายสำคัญคือให้พระภิกษุได้มีเครื่องนุ่งห่มหลังจากจำพรรษาครบสาม เดือนและมีจีวรใหม่ออกไปเทศนาโปรดชาวบ้านกลายเป็นประเพณีที่ชาวกำแพงเพชรรักษาไว้สืบต่อจนถึงรุ่นลูกหลานได้รู้จัก ประเพณีที่ดีงามนี้สืบไป

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
- ประชาสัมพันธ์จังหวัดกำแพงเพชร 055-705011
- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุโขทัย 055-616228-9 โทรสาร 055-616366

งานกินเจ "เมืองตรัง"



ประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดตรัง จัดระหว่างวันที่ 8-16 ตุลาคม 2553 โดยมีศาลเจ้าต่างๆ ทั่วทั้งจังหวัดตรังร่วมจัดงาน ทั้งนี้ภายในเขตตัวเมืองตรัง มีศาลเจ้าที่ร่วมถือศีลกินผักและจัดกิจกรรมต่างๆ ภายในศาลเจ้า ได้แก่ ศาลเจ้าพ่อหมื่นราม ศาลเจ้ากิวอ่องเอี่ย ศาลเจ้าพ่อเสือ และศาลเจ้าไต้เสี่ยฮุดโจ้ว โดยมีกิจกรรมหลักๆ อาทิ พิธีเดินธูปเวียนเทียนสะเดาะเคราะห์ พิธีข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์ พิธีไต่บันไดมีด และกิจกรรมที่สำคัญที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวได้ชมและสัมผัสกับประเพณีโบราณ อันศักดิ์สิทธิ์ คือ ขบวนแห่พระออกเยี่ยมประชาชนในเขตเทศบาลนครตรัง หรือ ที่เรียกว่า “พระออกเที่ยว” โดยมีกำหนดการดังนี้
1. ศาลเจ้าพ่อหมื่นราม วันที่ 11 ตุลาคม 2553 ช่วงบ่าย
2. ศาลเจ้ากิวอ่องเอี่ย วันที่ 13 ตุลาคม 2553 ช่วงเช้า
3. ศาลเจ้าพ่อเสือ วันที่ 14 ตุลาคม 2553 ช่วงเช้า
4. ศาลเจ้าไต่เสี่ยวฮุดโจ้ว วันที่ 14 ตุลาคม 2553 ช่วงเย็น
นอก จากพิธีกรรมที่ศาลเจ้าต่างๆ แล้ว เทศบาลนครตรังได้จัดงานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดตรัง ระหว่างวันที่ 8-11 ตุลาคม 2553 ณ บริเวณสี่แยกหอนาฬิกา โดยมีกิจกรรมประกอบด้วย พิธีสวดมนต์ พิธีเดินธูปเวียนเทียน โชว์การแสดงมังกร การเชิดสิงโต การประกวดธิดาเจ้าแม่กวนอิม การแข่งขันเซียนพันธุ์แท้ประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดตรัง การแข่งขันโต้วาที การจำหน่ายอาหารเจ และการแสดงบนเวทีอีกมากมาย รวมทั้งกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่อีกกิจกรรมหนึ่ง คือ การจุดประทัดไม่น้อยกว่า 300,000 นัด ณ บริเวณหอนาฬิกาจังหวัดตรัง โดยศาลเจ้าไต่เสี่ยฮุดโจ้ว
สำหรับ นักท่องเที่ยวที่ประสงค์จะร่วมรับพระในวันที่พระออกเยี่ยมรอบตลาดเมืองตรัง ในวันที่ 11 และ 13 ต.ค. 53 สามารถติดต่อจองโต๊ะบูชาองค์ศักดิ์หรือรับพระได้ที่หอการค้าจังหวัดตรัง ราคา 899 บาท (จุดตั้งโต๊ะบูชาบริเวณถนนสถานี หน้าโรงแรมธรรมรินทร์) หรือสามารถร่วมรับพระ บูชาองค์ศักดิ์สิทธิ์ได้กับทางเทศบาลนครตรัง ซึ่งได้จัดโต๊ะบูชาไว้บริเวณเกาะกลางถนน หน้าสำนักงานเทศบาลนครตรัง